เมนู

ที่ตนฟังแล้ว และชักชวนผู้อื่นในการพิจารณาอรรถแห่งธรรม 1
ตนเองรู้ทั่วถึงอรรถรู้ทั่วถึงธรรมแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
และชักชวนผู้อื่นในการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม 1 ด้วยเหตุมี
ประมาณเท่านี้แล อุบาสกชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน และ
เพื่อประโยชน์ผู้อื่น.
จบ มหานามสูตรที่ 5

อรรถกถามหานามสูตรที่ 5


มหานามสูตรที่ 5

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า อตฺถูปปริกฺขึ โหติ ความว่า ย่อมเป็นผู้ใคร่ครวญ
ถึงประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ คือ เหตุและมิใช่เหตุ.
จบ มหานามสูตรที่ 5

6. ชีวกสูตร


[116] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ สวน-
มะม่วงของหมอชีวก ใกล้กรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น หมอชีวกโกมารภัจจ์
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มี-
พระภาคเจ้าแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยเหตุมีประมาณ
เท่าไรหนอ บุคคลชื่อว่าเป็นอุบาสก พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ดูก่อนชีวก เมื่อใดแลบุคคลถึงพระพุทธเจ้า ถึงพระธรรม ถึงพระสงฆ์
ว่าเป็นสรณะ ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล ชื่อว่าเป็นอุบาสก.
ช. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไร อุบาสก
ชื่อว่าเป็นผู้มีศีล.
พ. ดูก่อนชีวก เมื่อใดแล อุบาสกงดเว้นจากปาณาติบาต ฯลฯ
งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความ
ประมาท ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล อุบาสกชื่อว่าเป็นผู้มีศีล.
ช. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไร
อุบาสกชื่อว่า ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น.
พ. ดูก่อนชีวก เมื่อใดแล อุบาสกถึงพร้อมด้วยศรัทธาด้วย
ตนเอง แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ฯลฯ ตนเอง
เป็นผู้รู้ทั่วถึงอรรถรู้ทั่วถึงธรรมแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นในการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ด้วยเหตุมี